วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ชี้กระแสโลกาภิวัฒน์ทำคนไทยเสียนิสัย


จากการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “ผลกระทบของโลกาภิวัตน์ที่มีต่อสังคมไทย” ณ สโมสรทหารบก เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า การจะบริหารจัดการสังคมให้มีภูมิคุ้มกันและสามารถที่จะอยู่ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ได้อย่างดีนั้น ทุกคนต้องร่วมกันกำหนดเป้าหมายของสังคมให้ชัดเจนตามเจตนารมณ์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ที่ต้องการให้สังคมไทย เป็นสังคมอยู่เย็นเป็นสุข โดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะนำพาสังคมไทยก้าวไปสู่ข้างหน้าได้ นอกจากนี้ควรเน้นยุทธศาสตร์การสร้างความดี ค้นหาสิ่งที่ดีจากกระแสโลกาภิวัตน์มาใช้ รวมทั้งควรปฏิบัติตามกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง รู้รักสามัคคี จึงจะทำให้สังคมไทยเดินหน้าไปได้อย่างเข้มแข็ง



ดร.โสภา ชูพิกุลชัย ชปีลมันน์ ราชบัณฑิตสาขา จิตวิทยา กล่าวว่า สังคมโลกาภิวัตน์ทำให้นิสัยของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เคยเป็นคนเอื้ออาทร เรียบง่าย ยึดถือในขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม เชื่อบาปบุญคุณโทษและมีความกตัญญู ก็กลายเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อ ชอบแข่งขันเอาชนะและบูชาวัตถุนิยม ซึ่งถือเป็นวิกฤติที่อันตรายมากที่สุดของสังคม ตนจึงขอเสนอแนวทางแก้ปัญหาสังคมโลกาภิวัตน์ ดังนี้ 1.ประชาชนทุกคนควรมีสติร่วมมือกันปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 2.รัฐบาลต้องปรับนโยบายวางแผนระยะยาว เพื่อรองรับสถานการณ์โลกาภิวัตน์ในอนาคตอย่างน้อย 20 ปี 3.ต้องกระจายอำนาจและกระจายรายได้สู่ชนบท 4.ปฏิรูประบบการศึกษา โดยปรับระบบการเรียนการสอนให้เน้นการสัมผัสความจริง เน้นการคิด และพัฒนาจิตใจ และ 5.ส่งเสริมสถาบันครอบครัวและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งหากรัฐบาลทำได้อย่างนี้จะทำให้ปัญหาสังคมลดลงได้ ทั้งปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด โสเภณี โรคเอดส์ เป็นต้น.









ขอคำแนะนำด้วยค่ะ/ครับ

พิ้นหลัง